ไม่ควรทำ! 10 มารยาท จาก 10 ประเทศ ที่นักท่องเที่ยวต้องรู้

1. ห้ามยกนิ้วโป้งที่ประเทศแถบตะวันออกกลาง

การยกนิ้วโป้งขึ้นมากดไลค์ในบ้านเรา ถ้าอยู่ในประเทศแถบตะวันออกกลางนั้น นอกจากจะเป็นการกระทำที่หยาบคายแล้ว ยังแสดงถึงการดูถูกเหยียดหยามร้ายแรงด้วย โดยมารยาทนี้ได้รับอิทธิพลมาจากเหตุการณ์ในสมัยโรมันเมื่อพันปีก่อน โดยคนใหญ่คนโตในสมัยนั้น ใช้การยกหัวแม่มือในการตัดสินการต่อสู้ของเหล่า ทาส คนผิวดำ ว่าจะให้ผู้แพ้ในการประลองได้มีชีวิตอยู่ต่อหรือถูกฆ่า โดยถ้ายกหัวแม่มือขึ้นนักสู้คนนั้นจะได้อยู่ต่อ แต่ถ้ายกหัวแม่มือลงนักสู้คนนั้นจะต้องถูกฆ่า ทำให้สัญลักษณ์นี้ได้แพร่หลายไปทั่วในอาณานิคมของโรม

ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง เช่น บาห์เรน, อียิปต์, อิหร่าน, ตุรกี, อิรัก, อิสราเอล, จอร์แดน, คูเวต, เลบานอน, โอมาน, กาตาร์, ซาอุดีอาระเบียซีเรีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เยเมน, ดินแดนปาเลสไตน์ (เวสต์แบงก์และฉนวนกาซา)

2. ห้ามพบปะ ติดต่อ พูดคุย กับเพศตรงข้ามในที่สาธารณะ โดยไม่มีผู้อื่นอยู่ด้วย ในประเทศซาอุดิอาระเบีย

ประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศที่มีกฎหมายที่เคร่งครัดในเรื่องการทำผิดศีลธรรม ซึ่งเน้นไปทางให้ชายและหญิงรักนวลสงวนตัว ซึ่งหากใครละเมิดจะต้องเจอกับบทลงโทษที่รุนแรง อย่างเช่นในปี 2008 หญิงอเมริกันคนหนึ่งติดต่อพูดคุยกับชายในร้าน Starbucks ต่อมาเธอถูกจับถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล

3. ไม่ควรมอบดอกไม้เป็นจำนวนคู่ในรัสเซีย

หากใครไปเที่ยวรัสเซียแล้วต้องการตอบแทนคนท้องถิ่นด้วยการมอบดอกไม้ซักช่อ อย่าลืมนับก่อนทุกครั้งเพราะว่า การให้ดอกไม้ที่มีจำนวนเป็นเลขคู่นั้น ในรัสเซียเขาจะเอาไว้ใช้ในงานศพ ซึ่งนั่นหมายความว่าเราได้แช่งให้เขาตายเร็ว และเราก็อาจจะโดนเขาทำร้ายให้เราตายได้เช่นกัน

ข้อห้ามอื่นๆ ในประเทศรัสเซีย

– ไม่ควรจับมือหรือหอมแก้มทักทายที่ประตูทางเข้าบ้าน

– ห้ามปฏิเสธการดื่มอวยพร (ข้อนี้คนไทยไม่น่าจะเดือดร้อน)

– เวลาไปเยี่ยมเยียนบ้านใครต้องมีของฝากติดไม้ติดมือไปด้วย

4. ห้ามให้ของขวัญด้วยมือซ้ายเพียงข้างเดียวในประเทศ อินเดีย, แอฟริกา, ศรีลังกา และประเทศตะวันออกกลาง

เพราะเขามีความเชื่อที่ว่ามือซ้ายสกปรกโสโครก เพราะเราใช้มือซ้ายในการจับสิ่งไม่ดีไม่ว่าจะเป็นล้างก้นเวลาเข้าส้วม และยังมีวัฒนธรรมในบางประเทศเชื่อว่าคนที่ถนัดซ้ายคือสมุนของซาตาน

ข้อควรรู้เรื่องการให้ของขวัญในประเทศอื่นๆ 

– ห้ามใช้กระดาษขาวมาห่อของขวัญแก่คนจีน

– ห้ามให้ดอกไม้สีขาวแก่ชาวบังคลาเทศ

5. ห้ามทำมือ OK ที่ประเทศบราซิล

การทำมือ OK ในบราซิล เป็นการแสดงที่หยาบคายคล้ายกับ Fuck You (ชูนิ้วกลาง) ในอเมริกา เพราะว่าการทำมือ OK โดยการเอานิ้วโป้งแตะนิ้วชี้จะเกิดรูปกลมๆ ซึ่งชาวบราซิลเปรียบ รู นี้กับ “รูทวาร” ในภาษาบราซิล “Cu” ซึ่งการทำนิ้วแบบนี้ ความหมายมันจะเหมือนประโยค Vai Tomar Nu Cu อ่านว่า “วาย โตมาร์ นู คู” ซึ่งจะมีความหมายรุนแรง (ประมาณว่าไปเสียชีวิตโรคระบาดที่ไหนก็ไป)

6. ห้ามคุยโทรศัพท์บนรถโดยสารสาธารณะในญี่ปุ่น

การขึ้นรถโดยสารสาธารณะที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า หรือรถเมล์ก็ตาม ควรที่จะปิดเสียงโทรศัพท์เอาไว้ มิเช่นนั้นแล้วนอกจากจะตกเป็นเป้าสายตาของชาวญี่ปุ่นแล้ว ยังอาจโดนตักเตือนอีกด้วย และมารยาทที่แตกต่างกับบ้านเราอีกหลายอย่าง เช่น การลุกให้นั่ง ในประเทศญี่ปุ่นเราจะเห็นผู้ชายนั่งกันเต็มเป็นเรื่องปกติเพราะบ้านเขาถือว่าผู้ชายทำงานหนักมาทั้งวันแล้วควรจะได้นั่ง ถ้าเราเห็นเด็กๆ ก็ไม่จำเป็นต้องลุกให้อีกเหมือนกัน เพราะเด็กญี่ปุ่นดูแลตัวเองได้ดีมาก (เด็กมันแก่แดด) ส่วนคนชราและคนท้อง จะมีที่นั่งเฉพาะไว้ให้อยู่แล้ว แต่ก็สามารถนั่งได้ถ้ายังไม่มีคนดังลักษณะนี้ขึ้นมา และเมื่อถึงป้ายก็ไม่ต้องรีบร้อนลงเพราะคนญี่ปุ่นจะมีมารยาทในการหลบให้คนออกก่อน

7. โปรดรักษาความสะอาดในประเทศสิงค์โปร์

ใครที่จะไปเที่ยวสิงค์โปร์ คุณควรพกกระดาษชำระติดตัวไว้ด้วย เพราะส้วมสาธารณะส่วนใหญ่ไม่มีการจัดเตรียมกระดาษชำระเอาไว้ให้ และถ้าหากคุณดันลืมกดชักโครกคุณจะต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 150 สิงคโปร์ดอลล่าร์ (หรือราวๆ 3,700 บาท) ส่วนใครที่สูบบุหรี่ในที่สาธารณะไม่ว่าจะเป็น รถโดยสาร แท็กซี่ ลิฟต์ โรงภาพยนตร์ สถานที่ราชการ ร้านอาหารที่มีเครื่องปรับอากาศและห้างสรรพสินค้า จะมีโทษปรับสูงสุดถึง 1,000 สิงคโปร์ดอลล่าร์ (หรือราวๆ 25,00 บาท)

8. ไปอเมริกาอย่าลืมให้ทิป

แม้ว่าในด้านกฎหมายไม่ได้กำหนดเอาไว้ แต่การให้ “ทิป” นับเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกคนทำกัน ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านตัดผม หรือการบริการต่างๆ ซึ่งความเหมาะสมของอัตราค่าทิปก็จะอยู่ที่ประมาณราวๆ 15-20% ของค่าอาหาร แตกต่างจากที่ญี่ปุ่นที่เราไม่ต้องให้ทิป เพราะเขาจะรวมค่าบริการไปในค่าอาหารแล้ว

ข้อห้ามอื่นๆ ที่ไม่ควรทำที่อเมริกา

– คนอเมริกันให้ความสำคัญกับเด็ก ควรที่จะพูดคุยทักทายเด็กที่มากับเพื่อนของคุณทุกครั้ง

– ไม่ควรเช็ดจาน ช้อน ส้อม ในร้านอาหาร ไม่ว่าจะหรูหราหรือธรรมดาแค่ไหน เพราะถือว่าเสียมารยาท หากเห็นว่าไม่สะอาดก็ขอเปลี่ยนชุดใหม่เลยจะดีกว่า

9. ห้ามชนแก้วในประเทศฮังการี

มีสาเหตุมาจากประวัติศาสตร์ในสมัยที่ออสเตรียบุกมาทำสงครามกับฮังการี ซึ่งออสเตรียเป็นฝ่ายชนะสงคราม และประหารชีวิตแม่ทัพฮังการี จากนั้นก็ฉลองด้วยการดื่มเบียร์ ด้วยการชนแก้วกันอย่างสะใจ ทำให้ชาวฮังการีเกลียดการชนแก้วและเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาจนถึงทุกวันนี้

10. อย่าสั่ง “คาปูชิโน” ที่อิตาลี ในช่วงเย็น

คาปูชิโน (Cappuccino) มีต้นกำเนิดมาจากอิตาลี ซึ่งคนอิตาลีส่วนใหญ่จะดื่มในตอนเช้าพร้อมคุกกี้หรือขนมปังเป็นอาหารมื้อเช้า นั่นทำให้คนอิตาลีจะไม่ดื่มคาปูชิโนในเวลาอื่น

ถึงอย่างไรนั้นก็ไม่ควรที่จะทำตัวเกร็งมากจนเกินไปจนทำให้เที่ยวอย่างไม่มีความสุข และควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเทศที่กำลังจะไปเยือนไว้ก่อนดีที่สุด

.............

ที่มา http://www.sharesara.com/10-country-courtesy-of-tourism/